
โอกาสทางธุรกิจของร้านกาแฟสด
หากมองโอกาสในการทำธุรกิจ SME ในช่วงระยะหลายๆปีมานี้ ธุรกิจร้านกาแฟสดถือเป็นธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวทางธุรกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้เป็นจำนวนมาก ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า ตลาดธุรกิจร้านกาแฟสดยังเปิดกว้างอยู่ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจใดๆก็คือการทำธุรกิจ ซึ่งความสำเร็จก็มีอยู่คู่กับความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการประกอบธุรกิจร้านกาแฟก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตและอนาคตค่อนข้างสดใสมาก ตราบเท่าที่กาแฟยังสามารถสร้างสุนทรีย์ให้กับผู้ที่รักการดื่มการแฟได้อย่างต่อเนื่อง แต่การทำธุรกิจตามกระแสนั้นก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งอาจไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ เพราะผู้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมีความรู้จริงในธุรกิจที่ตนเองจะทำ ผู้ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟสดจึงควรศึกษาข้อมูลที่สำคัญๆบางส่วนไว้ ดังนี้
.
วิวัฒนาการของร้านกาแฟสด
ร้านกาแฟสดบ้านเราในระยะแรกๆเริ่มจากร้านค้าเล็กๆหรือขายตามรถเข็น รวมทั้งหาบขาย กระทั่งพายเรือขายกาแฟที่เราท่านเคยเห็นกันมาตั้งแต่สมัยผู้เขียนยังเป็นเด็ก อุปกรณ์ก็จะมีถุงชงกาแฟแล้วเทใส่แก้ว แล้วเติมด้วย น้ำตาลหรือนม เพื่อเพิ่มรสหวาน ก่อนคนให้เข้ากัน หากดื่มในตอนเช้าแล้วก็ต้องทานกับปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวปิ้ง เป็นของทานเสริม และมีโต๊ะกลมและเก้าอี้นั่ง แบบหัวโล้น ซึ่งมักจะพบเห็นได้ตามตลาดสด สถานที่คนพลุกพล่าน คอกาแฟทั้งหลายมาดื่มกาแฟร่วมกัน แล้วอาจสนทนาแลกเปลี่ยนข่าวสาร ตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เป็นเรื่องเป็นราว ไปจนกระทั่งถึงนินทาชาวบ้าน การออกแบบร้านก็จะเป็นแบบเรียบ เน้นขายผลิตภัณฑ์มากกว่าขายการออกแบบ (Design) หรือรูปลักษณ์เหมือนเช่นในปัจจุบัน ยุคต่อมา ร้านกาแฟสดได้วิวัฒนาการมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาเป็นแบบปัจจุบันที่มีการขายกันตามห้างสรรพสินค้า ตามปั๊มน้ำมัน มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อเน้นการแข่งขันกันมากข้น เพราะว่าในปัจจุบันคู่แข่งมีมากทั้งร้านที่เป็นของคนไทย ร้านที่เป็นสาขาของต่างประเทศ แม้แต่ร้านกาแฟโบราณก็มีการปรับตัวปรับรูปลักษณ์ เพื่อให้สามารถดำรงอยู่และแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหม่ๆที่เข้ามาทำธุรกิจนี้
.
นอกจากนั้นปัจจุบันนี้ เมื่อตลาดของคนดื่มกาแฟมีการขยายตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณและเนื้อหา ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก ผลิตภัณฑ์กาแฟในท้องตลาดจะมีมากขึ้น และหลากหลายรูปลักษณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกาแฟซอง กาแฟกระป๋อง กาแฟสดคั่ว มีหลากหลายยี่ห้อ ส่วนราคาก็มีตั้งแก้วละ 10 บาท จนถึงแก้วละ 100 บาท ธุรกิจร้านกาแฟได้เกิดขึ้นมากมายในทุกสถานที่ ทั้งห้างสรรพสินค้า ตึกสูงที่เป็นสถานที่ทำงาน อาคารที่พักอาศัยร้านค้าตามถนนหนทาง ไปจนกระทั้งปั๊มน้ำมันดังกล่าวแล้ว และแนวโน้มของคนดื่มกาแฟจะหันมานิยมรสชาติของกาแฟสดแบบคั่วบด ที่มีรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมมากขึ้น การเปลี่ยน แปลงรสนิยมของผู้บริโภคดังกล่าวแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากเห็นช่องทางที่จะสามารถทำธุรกิจกาแฟได้จากวิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบันซึ่งนอกจากร้านกาแฟของคนไทยแล้ว ก็มีร้านกาแฟซึ่งเป็นการขยายตัวจากกลุ่มธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาทำธุรกิจประเภทนี้ในไทยอย่างคึกคักมากขึ้น
.
ขนาดของตลาดและโอกาสเติบโต
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นและรสเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลกจำนวนมากมาช้านาน ถึงแม้ว่ากาแฟจะไม่ได้เป็นเครื่องดื่มที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย แต่กาแฟก็เป็นเครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักและบริโภคมาเป็นเวลานานไม่ต่ำกว่า 200 ปีแล้วตามที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ตอนต้น โดยในประเทศไทยมีการปลูกกาแฟหลายพันธุ์ และหลายภูมิภาคโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ อีกทั้งได้มีการพัฒนาวิธีการนำกาแฟมาผลิตเป็นเครื่องดื่มในลักษณะต่างๆ และมีรสนิยมการบริโภคกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น โอเลี้ยง กาแฟเย็น หรือกาแฟโบราณที่ใช้ถุงกาแฟชง ถึงแม้กาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่มีจำหน่ายและเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน แต่ลักษณะความนิยมและพฤติกรรมการดื่มกาแฟของคนไทย จะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากชาวต่างประเทศ ที่นิยมบริโภคกาแฟกันอย่างแพร่หลาย อย่างสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป เป็นต้น ปัจจุบันธุรกิจร้านกาแฟในบ้านเรานั้นเป็นธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวสูง ผู้ประกอบการต้องมีการปรับปรุงธุรกิจของตนเอง รวมทั้งมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์กาแฟในปี 2548 เท่ากับ 21,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นปริมาณที่เติบโตมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ นับจากปี 2545 และมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 10 ต่อปี โดยแยกเป็นกาแฟผงสำเร็จรูป 9,300 ล้านบาท กาแฟกระป๋อง 7,000 ล้านบาท และร้านกาแฟสดพรีเมี่ยม 4,700 ล้านบาท ตามลำดับ
.
เมื่อพิจารณาเฉพาะร้านกาแฟสดพรีเมี่ยม จะเห็นได้ว่า ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 500 ล้านบาทต่อปี เริ่มจาก 3,000 ล้านบาทในปี 2545 เพิ่มขึ้นเป็น 3,500 ล้านบาทในปี 2546 ขยับเป็น 4,000 ล้านบาทในปี 2547 ที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,700 ล้านบาทภายในปี 2548 ผู้เขียนคาดการณ์ว่า ในปีปัจจุบัน (2552) ปริมาณการตลาดของกาแฟพรีเมี่ยมน่าจะอยู่ที่ ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท
.
เนื่องมาจากปริมาณร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมที่เปิดตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคหันมาดื่มกาแฟคั่วบดแทนกาแฟผงสำเร็จรูปมากขึ้น ความนิยมในร้านกาแฟพรีเมี่ยมส่งผลให้มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านช่องทางการจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในพื้นที่ร้านค้าสมัยใหม่หรือ Modern Trade ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ดิสเคาน์สโตร์ ทำให้เกิดการแย่งพื้นที่ทำเลดี ทำให้ต้นทุนในการขยายสาขาแต่ละแห่งเพิ่มสูงขึ้น ทางผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์โดยการเน้นความหลากหลายและสร้างความแตกต่าง โดยขยายสาขาเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยทำเลนอกร้านค้าสมัยใหม่ที่น่าสนใจ คือ ปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์ รถไฟฟ้า ศูนย์แสดงสินค้า ร้านหนังสือ โรงพยาบาล สถานออกกำลังกาย สถานีรถไฟฟ้า และท่าอากาศยาน อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันร้านกาแฟในปั้มน้ำมันก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมกำลังรุกคืบเข้าไป โดยเริ่มจากร้านบ้านไร่กาแฟ ซึ่งเป็นร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมของไทยเป็นผู้บุกเบิก และขณะนี้ก็มีร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมรายอื่นๆกำลังพิจารณาพื้นที่ปั๊มน้ำมัน ให้บริการแก่นักเดินทางผู้ต้องการพักรถ ไปพร้อมกับการพักผ่อน กับรสชาติอันหอมกรุ่นของกาแฟคั่วสดบดใหม่ๆ
.
เพราะตลาดของร้านธุรกิจกาแฟสดโดยรวมยังขยายตัวได้อีกมาก ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในแต่ละวันไม่สูงนัก หากใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่จากภายในประเทศเป็นหลัก โดยร้านกาแฟสดโดยเฉลี่ยจะมีรายได้อยู่ประมาณวันละ 3,000-6,000 บาท และมีกำไรประมาณวันละ 1,000 บาท ร้านกาแฟสดทั่วไปถือเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่น่าสนใจและน่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันตลาดร้านกาแฟอยู่ในช่วงขยายตัว และมีฐานลูกค้ารองรับอีกมาก ขณะที่จำนวนร้านกาแฟสดปัจจุบัน อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและมีการแข่งขันกันสูงดังกล่าวแล้ว แต่การที่ธุรกิจร้านกาแฟสดจากต่างชาติยังทยอยกันเข้ามาลงทุนเปิดกิจการในเมืองไทย แสดงว่า ตลาดของธุรกิจกาแฟนี้ยังมีอนาคต และได้รับการประเมินว่ายังขยายตัวต่อไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นสัญญาณเตือนภัยจากการรุกรานของธุรกิจข้ามชาติที่กดดันให้ร้านกาแฟของนักลงทุนไทยต้องปรับตัว ทั้งรสชาติและบริการ เพื่อเผชิญการบุกตลาดของเครือข่ายร้านกาแฟชื่อดังจากต่างประเทศ นอกจากการปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันของบรรดาร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมที่เป็นเครือข่ายสาขาจากต่างประเทศแล้ว บรรดาร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมของไทยยังหันไปขยายสาขาในต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมไทยใน 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ธุรกิจร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมยังคงเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน เนื่องจากการที่โอกาสทางธุรกิจยังเปิดกว้าง กล่าวโดยทั่วไปแล้วปริมาณการบริโภคกาแฟของคนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และส่วนใหญ่ยังนิยมบริโภคกาแฟสำเร็จรูป ซึ่งธุรกิจร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคกาแฟของคนไทยไปในขณะเดียวกันด้วย นอกจากนี้ ปัจจุบันธุรกิจร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมกำลังกลายเป็นร้านที่อยู่ในกระแสความนิยม โดยมีผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 10 ยี่ห้อ ที่ประกาศขยายธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2543 ทั้งในการขยายร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยก็ต้องเข้ามาในธุรกิจนี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสียงสูงกว่านักลงทุนรายใหญ่ที่มีทั้งกำลังเงินและความรู้ด้านเทคโนโลยี่ รวมทั้งเทคนิคการพลิกแพลงตลาด เพื่อขยายฐานการบริโภค ทำให้มีโอกาสในการประสบความสำเร็จในธุรกิจมากกว่า ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้วิเคราะห์ว่า ผลิตภัณฑ์กาแฟทุกประเภทยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยในปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ คือ บริโภคน้อยกว่าร้อยละ 0.5 กิโลกรัม/คน/ปี หรือคิดเป็นเพียง 130-150 ถ้วย/คน/ปี เท่านั้น (หรือเฉลี่ยไม่ถึงหนึ่งแก้ว/คน/วัน) เพราะปริมาณคนไทยที่บริโภคกาแฟเป็นประจำมีเพียงร้อยละ 30 (หรือไม่ถึง 2 ล้านคน) จากประชากรคนไทยทั้งหมดกว่า 60 ล้านคน ซึ่งยังมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับประเทศในแถบเอเชียอย่างเช่น ญี่ปุ่น ดื่มกาแฟเฉลี่ย 500 แก้ว/คน/ปี หรืออเมริกาที่ดื่มกาแฟเฉลี่ย 700 แก้ว/คน/ปี (หรือเฉลี่ย 2 แก้ว/คน/วัน) ดังนั้น ธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก แต่คาดหมายว่าการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟต่างๆ จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
.
หากจะกล่าวโดยสรุปเราจะเห็นได้ว่าตลาดร้านกาแฟโดยเฉพาะร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะว่าคนไทยเรามีการดื่มกาแฟมานานพอสมควรแม้ว่ากาแฟจะไม่ใช่พืชที่มีถิ่นกำเนิดในบ้านเราก็ตาม พวกเราที่มีอายุราวๆ 60 ปีลงมาคงจะเห็นร้านกาแฟสด ที่เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาดื่มกาแฟและสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องต่างๆตั้งแต่เรื่องการบ้านยันเรื่องการเมือง ตั้งแต่เรื่องที่มีสาระจนกระทั่งเรื่องสัพเพเหระ จนมีคำว่า “สภากาแฟ” อันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป สภาพดังกล่าวนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยนั้นได้สร้างวัฒนธรรมในการดื่มกาแฟของตนเองขึ้น ซึ่งมีทั้งความเหมือนและแตกต่างกับคนชาติอื่นๆ การรุกเข้ามาของร้านกาแฟสัญชาติอื่นๆ จำเป็นต้องทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจกาแฟสดของไทยจะต้องปรับกลยุทธ์ทั้งรุกและรับ ให้ทันกับสถานการณ์ทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะร้านกาแฟสด พรีเมี่ยม แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยตอนจะเติบโตในอัตราที่ติดลบ แต่ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาแฟ คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดจะทะลุระดับ 8,000 ล้านบาท ภายในเวลาไม่เกิน 5 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน แต่การปรับกลยุทธ์นี้ จะต้องไม่ลืมการพัฒนาที่ยืนอยู่บนพื้นฐานที่เข้มแข็งของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของไทยเราด้วย เพราะหากเราทำได้ ในการค้นหารูปลักษณ์ที่ลงตัว ก็ไม่แน่เช่นกันว่าร้านกาแฟสัญชาติไทยไม่เพียงแต่จะเติบโตได้ในประเทศ หากอาจไปเติบโตในตลาดต่างประเทศได้อย่างไม่ต้องอายใครๆชาติไหนๆได้เช่นกัน
หากมองโอกาสในการทำธุรกิจ SME ในช่วงระยะหลายๆปีมานี้ ธุรกิจร้านกาแฟสดถือเป็นธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวทางธุรกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้เป็นจำนวนมาก ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า ตลาดธุรกิจร้านกาแฟสดยังเปิดกว้างอยู่ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจใดๆก็คือการทำธุรกิจ ซึ่งความสำเร็จก็มีอยู่คู่กับความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการประกอบธุรกิจร้านกาแฟก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตและอนาคตค่อนข้างสดใสมาก ตราบเท่าที่กาแฟยังสามารถสร้างสุนทรีย์ให้กับผู้ที่รักการดื่มการแฟได้อย่างต่อเนื่อง แต่การทำธุรกิจตามกระแสนั้นก็มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งอาจไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ เพราะผู้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมีความรู้จริงในธุรกิจที่ตนเองจะทำ ผู้ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟสดจึงควรศึกษาข้อมูลที่สำคัญๆบางส่วนไว้ ดังนี้
.
วิวัฒนาการของร้านกาแฟสด
ร้านกาแฟสดบ้านเราในระยะแรกๆเริ่มจากร้านค้าเล็กๆหรือขายตามรถเข็น รวมทั้งหาบขาย กระทั่งพายเรือขายกาแฟที่เราท่านเคยเห็นกันมาตั้งแต่สมัยผู้เขียนยังเป็นเด็ก อุปกรณ์ก็จะมีถุงชงกาแฟแล้วเทใส่แก้ว แล้วเติมด้วย น้ำตาลหรือนม เพื่อเพิ่มรสหวาน ก่อนคนให้เข้ากัน หากดื่มในตอนเช้าแล้วก็ต้องทานกับปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวปิ้ง เป็นของทานเสริม และมีโต๊ะกลมและเก้าอี้นั่ง แบบหัวโล้น ซึ่งมักจะพบเห็นได้ตามตลาดสด สถานที่คนพลุกพล่าน คอกาแฟทั้งหลายมาดื่มกาแฟร่วมกัน แล้วอาจสนทนาแลกเปลี่ยนข่าวสาร ตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งที่เป็นเรื่องเป็นราว ไปจนกระทั่งถึงนินทาชาวบ้าน การออกแบบร้านก็จะเป็นแบบเรียบ เน้นขายผลิตภัณฑ์มากกว่าขายการออกแบบ (Design) หรือรูปลักษณ์เหมือนเช่นในปัจจุบัน ยุคต่อมา ร้านกาแฟสดได้วิวัฒนาการมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาเป็นแบบปัจจุบันที่มีการขายกันตามห้างสรรพสินค้า ตามปั๊มน้ำมัน มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อเน้นการแข่งขันกันมากข้น เพราะว่าในปัจจุบันคู่แข่งมีมากทั้งร้านที่เป็นของคนไทย ร้านที่เป็นสาขาของต่างประเทศ แม้แต่ร้านกาแฟโบราณก็มีการปรับตัวปรับรูปลักษณ์ เพื่อให้สามารถดำรงอยู่และแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหม่ๆที่เข้ามาทำธุรกิจนี้
.
นอกจากนั้นปัจจุบันนี้ เมื่อตลาดของคนดื่มกาแฟมีการขยายตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณและเนื้อหา ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก ผลิตภัณฑ์กาแฟในท้องตลาดจะมีมากขึ้น และหลากหลายรูปลักษณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกาแฟซอง กาแฟกระป๋อง กาแฟสดคั่ว มีหลากหลายยี่ห้อ ส่วนราคาก็มีตั้งแก้วละ 10 บาท จนถึงแก้วละ 100 บาท ธุรกิจร้านกาแฟได้เกิดขึ้นมากมายในทุกสถานที่ ทั้งห้างสรรพสินค้า ตึกสูงที่เป็นสถานที่ทำงาน อาคารที่พักอาศัยร้านค้าตามถนนหนทาง ไปจนกระทั้งปั๊มน้ำมันดังกล่าวแล้ว และแนวโน้มของคนดื่มกาแฟจะหันมานิยมรสชาติของกาแฟสดแบบคั่วบด ที่มีรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมมากขึ้น การเปลี่ยน แปลงรสนิยมของผู้บริโภคดังกล่าวแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากเห็นช่องทางที่จะสามารถทำธุรกิจกาแฟได้จากวิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบันซึ่งนอกจากร้านกาแฟของคนไทยแล้ว ก็มีร้านกาแฟซึ่งเป็นการขยายตัวจากกลุ่มธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาทำธุรกิจประเภทนี้ในไทยอย่างคึกคักมากขึ้น
.
ขนาดของตลาดและโอกาสเติบโต
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นและรสเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลกจำนวนมากมาช้านาน ถึงแม้ว่ากาแฟจะไม่ได้เป็นเครื่องดื่มที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย แต่กาแฟก็เป็นเครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักและบริโภคมาเป็นเวลานานไม่ต่ำกว่า 200 ปีแล้วตามที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ตอนต้น โดยในประเทศไทยมีการปลูกกาแฟหลายพันธุ์ และหลายภูมิภาคโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ อีกทั้งได้มีการพัฒนาวิธีการนำกาแฟมาผลิตเป็นเครื่องดื่มในลักษณะต่างๆ และมีรสนิยมการบริโภคกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น โอเลี้ยง กาแฟเย็น หรือกาแฟโบราณที่ใช้ถุงกาแฟชง ถึงแม้กาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่มีจำหน่ายและเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน แต่ลักษณะความนิยมและพฤติกรรมการดื่มกาแฟของคนไทย จะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากชาวต่างประเทศ ที่นิยมบริโภคกาแฟกันอย่างแพร่หลาย อย่างสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป เป็นต้น ปัจจุบันธุรกิจร้านกาแฟในบ้านเรานั้นเป็นธุรกิจที่มีอัตราการขยายตัวสูง ผู้ประกอบการต้องมีการปรับปรุงธุรกิจของตนเอง รวมทั้งมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์กาแฟในปี 2548 เท่ากับ 21,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นปริมาณที่เติบโตมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ นับจากปี 2545 และมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 10 ต่อปี โดยแยกเป็นกาแฟผงสำเร็จรูป 9,300 ล้านบาท กาแฟกระป๋อง 7,000 ล้านบาท และร้านกาแฟสดพรีเมี่ยม 4,700 ล้านบาท ตามลำดับ
.
เมื่อพิจารณาเฉพาะร้านกาแฟสดพรีเมี่ยม จะเห็นได้ว่า ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 500 ล้านบาทต่อปี เริ่มจาก 3,000 ล้านบาทในปี 2545 เพิ่มขึ้นเป็น 3,500 ล้านบาทในปี 2546 ขยับเป็น 4,000 ล้านบาทในปี 2547 ที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,700 ล้านบาทภายในปี 2548 ผู้เขียนคาดการณ์ว่า ในปีปัจจุบัน (2552) ปริมาณการตลาดของกาแฟพรีเมี่ยมน่าจะอยู่ที่ ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท
.
เนื่องมาจากปริมาณร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมที่เปิดตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคหันมาดื่มกาแฟคั่วบดแทนกาแฟผงสำเร็จรูปมากขึ้น ความนิยมในร้านกาแฟพรีเมี่ยมส่งผลให้มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านช่องทางการจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในพื้นที่ร้านค้าสมัยใหม่หรือ Modern Trade ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ดิสเคาน์สโตร์ ทำให้เกิดการแย่งพื้นที่ทำเลดี ทำให้ต้นทุนในการขยายสาขาแต่ละแห่งเพิ่มสูงขึ้น ทางผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์โดยการเน้นความหลากหลายและสร้างความแตกต่าง โดยขยายสาขาเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยทำเลนอกร้านค้าสมัยใหม่ที่น่าสนใจ คือ ปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์ รถไฟฟ้า ศูนย์แสดงสินค้า ร้านหนังสือ โรงพยาบาล สถานออกกำลังกาย สถานีรถไฟฟ้า และท่าอากาศยาน อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันร้านกาแฟในปั้มน้ำมันก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมกำลังรุกคืบเข้าไป โดยเริ่มจากร้านบ้านไร่กาแฟ ซึ่งเป็นร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมของไทยเป็นผู้บุกเบิก และขณะนี้ก็มีร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมรายอื่นๆกำลังพิจารณาพื้นที่ปั๊มน้ำมัน ให้บริการแก่นักเดินทางผู้ต้องการพักรถ ไปพร้อมกับการพักผ่อน กับรสชาติอันหอมกรุ่นของกาแฟคั่วสดบดใหม่ๆ
.
เพราะตลาดของร้านธุรกิจกาแฟสดโดยรวมยังขยายตัวได้อีกมาก ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในแต่ละวันไม่สูงนัก หากใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่จากภายในประเทศเป็นหลัก โดยร้านกาแฟสดโดยเฉลี่ยจะมีรายได้อยู่ประมาณวันละ 3,000-6,000 บาท และมีกำไรประมาณวันละ 1,000 บาท ร้านกาแฟสดทั่วไปถือเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่น่าสนใจและน่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันตลาดร้านกาแฟอยู่ในช่วงขยายตัว และมีฐานลูกค้ารองรับอีกมาก ขณะที่จำนวนร้านกาแฟสดปัจจุบัน อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและมีการแข่งขันกันสูงดังกล่าวแล้ว แต่การที่ธุรกิจร้านกาแฟสดจากต่างชาติยังทยอยกันเข้ามาลงทุนเปิดกิจการในเมืองไทย แสดงว่า ตลาดของธุรกิจกาแฟนี้ยังมีอนาคต และได้รับการประเมินว่ายังขยายตัวต่อไปได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นสัญญาณเตือนภัยจากการรุกรานของธุรกิจข้ามชาติที่กดดันให้ร้านกาแฟของนักลงทุนไทยต้องปรับตัว ทั้งรสชาติและบริการ เพื่อเผชิญการบุกตลาดของเครือข่ายร้านกาแฟชื่อดังจากต่างประเทศ นอกจากการปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันของบรรดาร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมที่เป็นเครือข่ายสาขาจากต่างประเทศแล้ว บรรดาร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมของไทยยังหันไปขยายสาขาในต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมไทยใน 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ธุรกิจร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมยังคงเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน เนื่องจากการที่โอกาสทางธุรกิจยังเปิดกว้าง กล่าวโดยทั่วไปแล้วปริมาณการบริโภคกาแฟของคนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และส่วนใหญ่ยังนิยมบริโภคกาแฟสำเร็จรูป ซึ่งธุรกิจร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคกาแฟของคนไทยไปในขณะเดียวกันด้วย นอกจากนี้ ปัจจุบันธุรกิจร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมกำลังกลายเป็นร้านที่อยู่ในกระแสความนิยม โดยมีผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 10 ยี่ห้อ ที่ประกาศขยายธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2543 ทั้งในการขยายร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยก็ต้องเข้ามาในธุรกิจนี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสียงสูงกว่านักลงทุนรายใหญ่ที่มีทั้งกำลังเงินและความรู้ด้านเทคโนโลยี่ รวมทั้งเทคนิคการพลิกแพลงตลาด เพื่อขยายฐานการบริโภค ทำให้มีโอกาสในการประสบความสำเร็จในธุรกิจมากกว่า ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้วิเคราะห์ว่า ผลิตภัณฑ์กาแฟทุกประเภทยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยในปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ คือ บริโภคน้อยกว่าร้อยละ 0.5 กิโลกรัม/คน/ปี หรือคิดเป็นเพียง 130-150 ถ้วย/คน/ปี เท่านั้น (หรือเฉลี่ยไม่ถึงหนึ่งแก้ว/คน/วัน) เพราะปริมาณคนไทยที่บริโภคกาแฟเป็นประจำมีเพียงร้อยละ 30 (หรือไม่ถึง 2 ล้านคน) จากประชากรคนไทยทั้งหมดกว่า 60 ล้านคน ซึ่งยังมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับประเทศในแถบเอเชียอย่างเช่น ญี่ปุ่น ดื่มกาแฟเฉลี่ย 500 แก้ว/คน/ปี หรืออเมริกาที่ดื่มกาแฟเฉลี่ย 700 แก้ว/คน/ปี (หรือเฉลี่ย 2 แก้ว/คน/วัน) ดังนั้น ธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก แต่คาดหมายว่าการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟต่างๆ จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
.
หากจะกล่าวโดยสรุปเราจะเห็นได้ว่าตลาดร้านกาแฟโดยเฉพาะร้านกาแฟสดพรีเมี่ยมยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะว่าคนไทยเรามีการดื่มกาแฟมานานพอสมควรแม้ว่ากาแฟจะไม่ใช่พืชที่มีถิ่นกำเนิดในบ้านเราก็ตาม พวกเราที่มีอายุราวๆ 60 ปีลงมาคงจะเห็นร้านกาแฟสด ที่เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาดื่มกาแฟและสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องต่างๆตั้งแต่เรื่องการบ้านยันเรื่องการเมือง ตั้งแต่เรื่องที่มีสาระจนกระทั่งเรื่องสัพเพเหระ จนมีคำว่า “สภากาแฟ” อันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป สภาพดังกล่าวนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยนั้นได้สร้างวัฒนธรรมในการดื่มกาแฟของตนเองขึ้น ซึ่งมีทั้งความเหมือนและแตกต่างกับคนชาติอื่นๆ การรุกเข้ามาของร้านกาแฟสัญชาติอื่นๆ จำเป็นต้องทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจกาแฟสดของไทยจะต้องปรับกลยุทธ์ทั้งรุกและรับ ให้ทันกับสถานการณ์ทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะร้านกาแฟสด พรีเมี่ยม แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยตอนจะเติบโตในอัตราที่ติดลบ แต่ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจกาแฟ คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดจะทะลุระดับ 8,000 ล้านบาท ภายในเวลาไม่เกิน 5 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน แต่การปรับกลยุทธ์นี้ จะต้องไม่ลืมการพัฒนาที่ยืนอยู่บนพื้นฐานที่เข้มแข็งของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของไทยเราด้วย เพราะหากเราทำได้ ในการค้นหารูปลักษณ์ที่ลงตัว ก็ไม่แน่เช่นกันว่าร้านกาแฟสัญชาติไทยไม่เพียงแต่จะเติบโตได้ในประเทศ หากอาจไปเติบโตในตลาดต่างประเทศได้อย่างไม่ต้องอายใครๆชาติไหนๆได้เช่นกัน
.
”””””””””””””””””””””””
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น